ลักษณะตำหนิของเพชร (Diamond Inclusions)
     
           
THE LARGEST ONLINE DIAMOND INVENTORY IN THAILAND - THE LARGEST ONLINE DIAMOND INVENTORY IN THAILAND - THE LARGEST ONLINE DIAMOND INVENTORY IN THAILAND - THE LARGEST ONLINE DIAMOND INVENTORY IN THAILAND
                 

ลึกลงไปในโลกเมื่อเพชรก่อตัวขึ้น เพชรจะเกิดตำหนิตามธรรมชาติ ซึ่งมีลักษณะและความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จะมองเห็นได้ภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า สิ่งเหล่านี้เรียกรวมกันว่า "Clarity" หรือ "Inclusion" สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้แยกแยะความแตกต่างระหว่างเพชรสังเคราะห์และเพชรธรรมชาติ แต่ยังช่วยให้สามารถกำหนดคุณภาพของเพชรได้อีกด้วย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาด ปริมาณ ตำแหน่ง สีของลักษณะความชัดเจนของตำหนิ และอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือไม่ก็ได้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมเพชรที่ไร้ตำหนิ (FL) อย่างแท้จริงจึงหายาก

เราจะสำรวจการเจือปนตำหนิประเภทต่างๆ และผลกระทบที่มีต่อรูปลักษณ์ของเพชร เพื่อให้คุณสามารถรู้จักและเข้าใจเพิ่มเติมว่าตำหนิเหล่านี้มีลักษณะอย่างไรและจะส่งผลต่อเพชรอย่างไรบ้าง

ลักษณะตำหนิของเพชร (Diamond Inclusions)

Pinpoint

ตำหนิที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับตำหนิอื่นๆ ซึ่งมีขนาดเล็กมาก มักจะปรากฏเป็นจุดสีขาวที่ดูเหมือนจุดไฟเมื่อดูภายใต้กล้องขยาย 20 เท่า บางจุดมีสีเทาหรือสีดำด้วย ซึ่งหาค่อนข้างหายาก ดังนั้นคุณแทบจะไม่เห็นตำหนิชนิดนี้เลย และไม่ส่งผลต่อความงามของเพชร

 

 

Needle

ตำหนิที่พบได้บ่อยที่สุดมีลักษณะเหมือนเข็มทรงบางและยาว ก่อตัวขึ้นภายใต้แรงกดดันมหาศาล โดยทั่วไปแล้วจะเป็นสีขาวหรือโปร่งใส ตำหนิ Needle มองเห็นยากด้วยตาเปล่า ซึ่งมักถูกตรวจพบภายใต้การมองผ่านด้วยกล้องขยาย

 

 

Indented Natural

ตำหนิธรรมชาติที่เกิดขึ้นใต้พื้นผิวของเพชร ซึ่งเป็นผลจากการที่ช่างเจียระไนเพชรตัดสินใจไม่เจียระไนเพชรส่วนนั้นออก จึงพบได้บ่อยในส่วนขอบของเพชร หากเจียระไนออกจะเสียน้ำหนักเพชรจำนวนมาก เนื่องจากต้องเจียระไนขอบเพชรออกทั้งหมด จึงตัดสินใจไม่เจียระไนเพื่อต้องการรักษาน้ำหนักของเพชรให้ได้มากที่สุด หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อเพชรที่มีตำหนิ Indented Natural เราขอแนะนำว่าอย่ากังวล เพราะมันสามารถใช้หนามเตยปกปิดตำหนิชนิดนี้ได้

 

 

Feather

มีลักษณะเป็นรอยแตกภายในเพชรที่ดูเหมือนขนนก ขนาดและตำแหน่งของ Feather มีผลกระทบต่อความสวยงาม ความแวววาว และความสว่างของเพชร โดยความชัด Feather จะขึ้นอยู่กับมุมที่เรามองเพชร Feather อาจโปร่งแสงจนมองไม่เห็นจากบางมุมมอง แต่เมื่อแสงสะท้อนจากอีกมุมหนึ่ง อาจดูเหมือนเป็นรอยร้าวสีขาว หากเพชรที่คุณเลือกมี Feather มากเกินไป อาจจะส่งผลต่อความทนทานของเพชรด้วย แต่คุณอาจได้รับส่วนลดที่สูงขึ้น

 

 

Crystal

แร่คริสตัลเป็นแร่ธาตุทางธรรมชาติ ที่พบได้บ่อยภายในเพชร อาจไม่มีสี หรืออาจมี สีดำ, แดง, เขียว และอื่นๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของแร่ธาตุชนิดนั้นๆ ในใบเซอร์ของเพชร Crystal จะปรากฏเป็นวงกลมสีแดงธรรมดา แต่ต้องระวังให้มาก เพราะสามารถเกิดได้หลากหลายสีและหลายขนาด โดยในใบเซอร์ไม่มีระบุสี การเลือกซื้อเพชรที่มีตำหนิชนิดนี้ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะคุณอาจเจอ Black Crystal หรือตำหนิสีดำขนาดใหญ่ซึ่งทำให้เพชรของคุณเห็นตำหนิเหมือนไฝสีดำอย่างชัดเจน

 

 

Cloud

พื้นที่ที่มีการรวมตัวของตำหนิขนาดเล็กภายในเพชรจำนวนมาก เช่น Pinpoint หรือ Crystal มีลักษณะเป็นสีขาวและเป็นหมอก ซึ่งยากที่จะแยกตำหนิในแต่ละส่วน ผู้ค้าเพชรเรียกเพชรชนิดนี้ว่า “Milky” หรือ สีขุ่น ตำหนิลักษณะนี้นั้นไม่ได้แย่เสมอไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความขุ่น หากความขุ่นมัวไม่ได้กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของเพชร โดยเฉพาะบนหน้าเพชร (Table) ก็ยังคงเป็นเพชรที่สวย แต่หากขุ่นมากเกินไปจะส่งผลต่อความแวววาว ไฟ และความงามของเพชร แต่ในทางกลับกัน คุณสามารถซื้อเพชรได้ในราคาลดพิเศษ

 

 

Chip

เป็นตำหนิเพชรบิ่นที่ส่วนภายนอกของเพชร ส่วนใหญ่เกิดจากความเสียหายต่อพื้นผิวของเพชรหรือการกระแทกที่รอยต่อด้านส่วนริมหรือก้นของเพชร สาเหตุหลักเกิดจากการสวมใส่และการใช้เพชรอย่างประมาทไม่ระมัดระวัง หรืออาจเกิดจากความผิดพลาดของช่างฝีมือที่ไม่ชำนาญขณะการฝังหรือถอดเพชรออกจากเครื่องประดับ

 

 

Cavity

รูขนาดใหญ่หรือลึกในพื้นผิวของเพชรเรียกว่า Cavity โดยปกติแล้ว Cavity จะเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการขัดเงา และ การเจียระไน โดยช่างเจียระไนเพชรพยายามจะกำจัดตำหนิอย่าง Feather หรือ Crystal ออกจากเพชรซึ่งทำให้เกิดโพรง ส่งผลให้มีรูบนพื้นผิวของเพชร

 

 

Knot

ลักษณะเป็นผลึกใสหรือสีขาวที่ปกคลุมพื้นผิวที่ขัดเงาของเพชร ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและส่งผลต่อความทนทานของเพชร และยังทำให้พื้นผิวของเพชรดูยกขึ้นได้อีกด้วย

 

 

Bruise

รอยช้ำของเพชร ถึงเพชรจะเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ยากที่สุดในโลก แต่เพชรก็สามารถช้ำได้เช่นกัน รอยฟกช้ำจะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้แรงภายนอกกับหิน ทำให้เกิดการรวมตัวของ Feather ใต้พื้นผิวของเพชร ตำหนิลักษณะนี้สร้างความเสียหายต่อมูลค่าของเพชรมากกว่าตำหนิสีขาว

 

 

Laser Drill-hole

เป็นการขจัดตำหนิสีดำภายในเพชรให้หายไปโดยการเจาะด้วยเลเซอร์ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 0.02 มม. รูเจาะด้วยเลเซอร์ส่วนใหญ่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อย่างไรก็ตาม รูเจาะด้วยเลเซอร์หลายรูสามารถส่งผลต่อมูลค่าของเพชรได้อย่างมาก

 

 

Twinning wisps

การเติบโตอย่างผิดปกติของเพชร ซึ่งจะผสมรวมกันระหว่างตำหนิต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Cloud, Crystal และ Feather มีลักษณะเหมือนกับรากต้นไม้ที่ฝังลงดินเป็นสีขาวดำ อาจมีสีน้ำตาลและสีเหลืองในบางสภาวะ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้เรียนเพชรและแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่จะเห็นตำหนินี้ด้วยตาเปล่า โดยทั่วไปแล้ว Twinning wisps ที่ไม่มีสีจะมองเห็นได้ด้วยกำลังขยาย 10 เท่า และมักจะพบได้ทั่วไปในเพชรที่มี Clarity ต่ำกว่า SI

 

 

Etch channel

ลักษณะเป็นทรงกระบอกบาง กลวง หรือเส้นหยักภายในหิน เกิดขึ้นจากแรงกดและความร้อนสูงใต้พื้นโลก ทำให้เกิดรอยแผลเป็นภายในเพชร ตำหนิลักษณะนี้ไม่ส่งผลต่อความทนทานของเพชร แต่อาจส่งผลต่อความชัดเจนของเพชร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่บริเวณ pavilion

 

 

Extra Facets

ในบางครั้ง ช่างเจียระไนเพชรจะพบว่าจำเป็นต้องขจัดตำหนิออกใกล้พื้นผิวหรือเพื่อชดเชยด้านที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน เช่น รอยบุบหรือรอยบิ่นที่เกิดจากการสึกหรอสามารถลบออกได้โดยการขัดออกไป ส่งผลให้เกิดเป็น Extra Facets ซึ่งไม่มีผลต่อใดๆต่อเพชร

 

 

Internal Graining

เกิดจากความผิดปกติในการเติบโตของเพชร มีลักษณะเป็นเส้น มุม หรือโค้งที่อาจปรากฏเป็นสีขาว สี หรือสะท้อนแสง ส่งผลต่อความโปร่งใส Internal Graining เป็นตำหนิที่ยากต่อการตรวจจับแม้ส่องกล้องขยาย ซึ่งการจะเห็น Internal Graining จะขึ้นอยู่กับมุมในการดูและแสงด้วย

ความใสที่ดีที่สุด IF เพชรสามารถมี Internal Graining และตราบใดที่ใสจะไม่ส่งผลต่อเกรดความชัดเจนของเพชร แต่หากเป็นสีน้ำตาลหรือสีที่แตกต่างจากเพชร อาจทำให้เกรดจาก IF เหลือเป็น VVS1 ได้ นอกจากนี้ Internal Graining ยังเป็นสาเหตุที่เพชรไม่ได้เกรดการขัดเงาเป็น Excellent

 

 

Bearded Girdle

เส้นสีเทาคล้ายขนที่มีลักษณะพร่ามัว ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการเจียระไนเพชร ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ขอบเพชรและขยายไปสู่พื้นผิวของเพชร ถ้าเพชรเม็ดไหนมี Bearded Girdle จำนวนมาก ซึ่งเป็นสัญญาณของเทคนิคการเจียระไนที่ไม่เหมาะสม

 

 

Grain Center

การเปลี่ยนรูปของเพชรที่กำลังเติบโต อาจเป็นสีขาวหรือสีดำ และอาจดูเหมือนเป็นเกลียวหรืออาจคล้ายกับพายุทอร์นาโดโปร่งแสงที่ติดอยู่ลึกเข้าไปในเพชร ตำหนิลักษณะนี้มองไม่เห็นจากทุกมุมมอง ดังนั้นตำหนิอาจหายไปและปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อคุณหมุนเพชร

 

 

Internal Laser Drilling

ตำหนิตามธรรมชาติจะมองเห็นได้น้อยลงโดยใช้การเจาะด้วยเลเซอร์ ในการรักษาด้วยเลเซอร์ภายในนั้นไม่มีรูเจาะหรือช่องเจาะ แต่เลเซอร์จะทิ้งรอยหยักเหมือนหนอน การรักษานี้ใช้กับตำหนิดำที่มีรอยร้าวภายใน ตำหนิ Feather ที่สร้างขึ้นนั้นแยกความแตกต่างจาก Feather ธรรมชาติได้ยากมาก แต่สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายภายใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูงโดยใช้เทคนิคการจัดแสงแบบต่างๆ โดยนักอัญมณีศาสตร์ที่มีประสบการณ์

 

 

Glorious Diamonds Co. , Ltd.

Glorious Diamonds Co. , Ltd. ร้านเพชรและจิวเวลรี่ ผู้ผลิตและจำหน่าย แหวนเพชร, แหวนแต่งงาน , แหวนหมั้น เราเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นที่จะมอบเพชรแท้ คุณภาพดี ยินดีให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับเพชร


ติดต่อ สอบถาม หรือสั่งซื้อได้ทุกวัน

Customer Service:

(+66)946909000, (+66)26302728

sales@gloriousdiamonds.net



 

Diamond Education


Contact Us


บริษัท กลอเรียส ไดมอนด์ส จำกัด

919/503-504 ชั้นที่ 43
อาคาร จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์
ถนนสีลม แขวงสีสม เขตบางรัก
กรุงเทพฯ 10500
ประเทศไทย

บริการลูกค้า +669 421 99999
                     +669 469 09000

สำนักงาน 02 630 2728

อีเมล sales@gloriousdiamonds.net

     

©2024All rights reserved.